Monday, November 23, 2015

4th Kozane

บทที่ โคซาเนะ (ชิ้น)

การส่งและวัตถุดิบ

      ในหมวดนี้จะมีขนาดไม่ค่อยแม่นยำมากนัก ซึ่งจจะมีฐานข้อมูลอยู่ท้ายบท
ในบทนี้คุณจะได้เรียนวิธีทำเกราะแบบสเกลหรือโคซาเน แต่ก่อนจะทำคุณจะต้องเรียนรู้วิธีทำดังกล่าวในมารบทโด(เกราะลำตัว)กับโซเดะ(บังไหล่)ก่อนจะทำหมวดนี้
"ถ้าคุณคิดจะใช้ธนูยิงจริงๆต้องใช้อย่างน้อยหนังดิบหนา 1/8" หรือ 0.3 ม.ม.แล้วทาแล็คเกอร์หนาๆ "
     สิ่งที่คุณควรต้องคิดถึงเป็นอันดับแรกสุดคือวัตถุดิบถ้าคุณคิดจะทำเกราะซามูไรจากหนังสัตว์จริงๆล่ะก็ ดีงาม แต่คุณต้องห้ามใช้หนังทั่วไปคุณต้องใช้หนังดิบหนาๆ และความหนาผมไม่ขำนะ ประมาณ 1/8" หรือ 0.3 มม.(หนามากนะครับลองดูในไม้บรรทัดก็ได้ ซึ่งจะหนาราวๆ4-5 ม.ม.เวลาทาแล็คเกอร์ทับลงไปซึ่งแล้วแต่คุณว่าจะทาหนาขนาดใหน  แบบกันธนูได้จริงก็อย่างน้อย6~8ชั้น ซึ่งบอกก่อนนะครับว่าถ้าคิดจะใช้ธนูยิงใส่ห้ามบางกว่าและยิงไกล้เกิน2เมตร ธนูญี่ปุ่นทะลุไม่รู้ด้วยแนะนำว่าให้วางแล้วยิงใส่จะดีที่สุดครับ สมัยโบราณเขาเอาวัตถุดิบมาจากหนังบนแผ่นหลังหนังควาย งานค่อนข้างจะช้างมากๆ ทั้งตัดและเจาะรู ถ้าคุณทำประมาณนี้ คุณกำลังทำเกราะยุคดั้งเดิมแบบฉบับที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติโตเกียว ซึ่งเป็นเกราะที่ไม่เหมาะสำหรับเล่นกีฬาการต่อสู้สไตล์ยุคกลาง(SCA) หรือ ผู้ศึกษาการแต่งกายเลียนแบบประวัติศาสตร์(Re-enacted) คุณอาจจะต้องใช้แล็คเกอร์จริงๆ ซึ่งเป็นเรซินธรรมชาติ ซึ่งมักจะไม่ค่อยมีในร้าน ห้างวัสดุก่อสร้าง ในไทยนี่ นาโกย่าแล็คเกอร์ มันเป็นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกย้อนยุคไปในอดีต มีความขลังในตัวัน
      เอาล่ะเรามาดูกันว่าจะใช้วัตถุดิบแบบใหนดีครับ
Photo of iyo-zane section      พลาสติกแผ่น ซึ่งถ้าเลือกดีๆแบบเหนียวๆทนๆ ล่ะก็อาจจะทนจากการเล่นกีฬาSCAได้ดีเลยทีเดียว    ซึ่งขึ้นอยู่กับกรรมวิธีของคุณว่าด้วยความหนาของแผ่น(ซึ่งต้องห้ามต่ำกว่า0.3ม.ม.หรือหนากว่านั้น
ผมไม่แนะนำให้ใช้ พลาสติก(แต่จริงๆแล้ว หนังเคลือบแล็คเกอร์จะดูคล้ายพลาสติกมากครับ)รูปทางด้านซ้ายจะแสดงให้เห็นถึงหนึ่งในชนิดของหนังเคลือบแล็คเกอร์ที่เรียกว่า อิโยซาเนะ(ไม่ต้องสงสัยเพราะท่านจะได้เห็นชนิดของโคซาเนะในหน่าถัดๆไป)ซึ่งมองเผินๆแล้วเหมือนพลาสติกเคลือบเงามากสำหรับผม

ถ้าพูดถึงการใช้พลาสติกในการทำเกราะ ผมบอกเลยผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต่อต้านการใช้ถังขยะมาประยุกต์ ทำเกราะไม่ว่าจะถังสีโจตัน ถังขยะหลวง(อันนี้ถ้าคุณเอามาใช้ก็ไม่รู้นะครับผมไม่แนะนำให้ขโมยของหลวงมาใช้ ผมบอกเลยว่ามันโค้งได้ไม่สวยงามเท่าที่ควร
แต่ผมยอมรับเลยว่าผมสนับสนุนพาสติกพวกแผ่น PE แผ่นABS  สำหรับโคซาเนะ สำหรับถ้าคิดจะใช้เหล็กในการทำเกราะและใช้ในการเล่นกีฬาSCAแล้วล่ะก็ควรจะใช้เหล็กหนาอย่างน้อยเบอร์14ซึ่งรับรองว่าหนักเป็นร้อยกว่าๆ หนังหลังจากทำการผ่านกระบวนการต่างๆมันจะเป็นไรที่เปราะบางมากๆแต่สำหรับทำโคซาเนะแล้ว ชึ้นกว้างครึ่งนิ่วสูงสองนิ้ว เจาะรูราวๆ13รูต่อชิ้น มันไม่แข็งแรงมากนัก
      คุณจะต้องพลาสติกหนาราวๆ 3~4มม หรือ 1/4" (หรือบางๆตอนทำ Mitsunezane และพวกเจาะรูสามแถวอื่นๆด้วย
                แผ่นPE อาจจะเป็ความไอเดียที่หาได้ไม่ยากมากนักแต่ก็ไม่ถึงกับหาง่าย ลองหาดูราวๆ3~5 มม หากคุณจะทำเกราะสำหรับการเล่นscA คุณควรจะตอกรีเวทใว้สี่รูแถวล่าง แทนการเย็บด้วยเอ็นหรือเชือกอื่นๆ ซึ่งผมไม่แนะนำกรรมวิธีนี้เพราะ ถ้าคุณตอกหลวมมันจะทำให้ขยับได้ และต้องตอกกันตาเหลือกแน่นอน และค่อยถักตามปกติ
      โคซาเนะนั้นการเย็บจะต้องวางให้เย็บจากซ้ายไปขวาและบนทับล่าง จากนั้นก็เย็บหรือตอกรีเวทไปตามแถวตรง รูเล็กสี่รูล่าง แล้วก็ถักด้วยเชือกใหมไม่ก็เชือกไนลอน แต่เชือกที่ใช้การถักเกราะญี่ปุ่นมักจะใช้หนังกวาง(ซึ้งบ้านเราก็หายากพอสมควร ในกรุงเทพไม่ วงเวียนใหญ่ก็แถวเสือป่า แต่ผมแนะนำนะมือใหม่หาเชือกไนลอนมาถักก่อนจะประหยัดมากที่สุด

ขนาดของโคซาเนะ

Sizes of historical kozane      เชื่อดิผมใช้เวลาจดจำส่วนนี้อย่างมาก ขึ้นอยู่กับสไตล์ชุดเกราะเปลี่ยนโคซาเนะก็เปลี่ยนตามเช่นกัน ตามกฏคือมันเล็กลงเรื่อยๆแคบลง(แต่สูงเท่าเดิม) ตรงนี้คุณไม่จำเป็นต้องสนใจมากนัก แต่ผมแนะนำว่าอยากทำเกราะสมัยใหนก็แนะนำให้ใช้โคซาเนะตามสมัยนั้น 
The dehaba      ไซส์ที่คุณจะใช้ก็ควรจะเป็นชิ้นที่มีความกว้างที่คุณพอทำไก้(และควรจะตามยุคสมัยและจำใว้เสมอว่าต้องมีช้องหยักหรือ เดฮาบะ(dehaba) คำนี้คือการอธิบายช่องระหว่างหยักของแต่ละชิ้นส่วนเมื่อถูกเย็บติดกันแล้ว หรือจะเรียกว่าร่องฟันก็ย่อมได้ แต่เชืดที่ถักก็ควรจะกว้างกว่าเดฮาบะ พลาสติก PE นั้นออกแบบมาให้เหมาะกับเดฮาบะ กว้างราวๆ 3/8"(ซั่งผมนิยมใช้เชือกกว้างประมาณ1/2นิ้ว จะได้ตัดปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างเส้นที่ถักซึ่งก๋ต้องขยายรูสำหรับถักให้กว้างขึ้นเช่นกัน)ซึ่งถ้าหาแบบ1/2"แนะนำให้หาเชือกที่มันบางกว่าที่ใช้กับลำตัวจะดีที่สุด
     
            ในโลกของช่างทำเกราะของจริงนั้น การถักเชือกนั้นทำให้แผ่นเกราะติดกันแน่นขึ้น แต่ในยุคเรานั้นมีทางเลือกไม่มากนักคุณอาจจะใช้เชือกไนลอน ไหม ไม่ก็หนังสัตว์ย้อมสี  ในแง่วิชาการ ถ้าคุณหาขนาดเชือกที่แน่นอนไม่ได้ ถ้าเลี่ยบได้อย่าขยายรูโคซาเนะถ้าไม่จำเป็น

      ในการสร้างเกราะตามประวัติศาสตร์ คงจะผิดแน่ๆถ้าทำเกราะจากโคซาเนะไซส์เดียวกันหมด โคซาเนะใช้ใน เกราะลำตัว(dô) กระโปรง(Kusazuri) บังไหล่(โซเดะ) แต่ละส่วนใช้โคซาเนะไม่เหมือนกัน ซึ่งแน่นอนแม้แต่กระโปรงหมวกก็แตกต่างกันครับ
ส่วนแนวตั้งโค้งซึ่งจะทำให้ชิโกโระอยู่ในทรงกรวย  กรณีนี้ก็เป็นสิ่งที่ใช้ทำใน ตัวสร้อยบังคอด้วย
  กรรมวิธีนี้อาจจะทำให้มีปัญหาในการใช้พลาสติก PE ทำซึ่งนั่นไม่น่าใช่เหตุผลที่จะใช้อ้างในการทำเกราะของกีฬาSCA ออกมาเป็นไซส์สเกลเดียวกัน

อย่างไรก็ดีผมก็ออกแบบให้มันยาวขึ้นนิดๆเพื่อให้ใช้วางเหลื่อมในกรณีกับ โซเดะกับคุซาสุริได้ดีขึ้น(หรือคุณอาจจะถักให้มันต่ำกว่าครึ่งหนึ่งหรือจะวางให้มันทับสนิทเลยก็ไงพอได้ แต่อาจจะไม่เหมาะกับ yodare kake หรือ สำหรับกระโปรงปีกหมวก ซึ่งแน่นอนมันไม่เหม่ะเพราะมันไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก 

Warping Kozane วิธีเย็บโคซาเนะ

Warping the kozane to fit the body      เริ่มช่วงเวลาในศัตวรรษที่ 15 ช่างทำเกราะเริ่มทำเกราะจากการตัดขึ้นมาให้เป็นตัวเกราะ เพื่อที่จะป้องกันอวัยวะ สำคัญของร่างกาย เจริญรอยตามอดีต 
      เพื่อที่จะทำให้สำเร็จพวกเขาจะต้องทำอะไรสักอย่างให้มันทำได้ง่าย และเพื่อที่จะได้ง่ายต่อการสวมใส่ พวกเขาดัดแผ่นให้เป็นทรง "S" ซึงจะทำให้แนวตั้งนั้นอยู่ในระเบียบ ไม่เลื่อนขึ้นๆลงๆ ซึ่งทำให้ถักเชือกง่ายขึ้น
      เย็บโคซาเนะในแนวนอนนั้นจะต้องทำให้เป็นแนวโค้งๆเพื่อที่จะได้ถักวางเหลื่อมแล้วจะไม่ขยับขึ้นลง
แต่ในสมัยแรกสุดๆนะตรงบเด่ๆ ซึ่งจะทำแบบปาดเอียงมากกว่าจะทำเป็นแบบสี่เปลี่ยม เมื่อมันถูกทำเป็นชุดมันทำให้แถวล่างมันเข้าร่อง

กันพอดี ในทฤษฎีนี้มันทำให้คุณอาจจะต้องใช้พลาสติกในการทำ ซึ่งดัดง่าย

ถ้าคุณทำโคซาเนะเองล่ะก็ วิธีนี้มันต้องทำส่วนสำหรับท้องให้แคบกว่าราวๆ1-2ม.ม.
(ส่วนกระโปรงจะต้องทำแบบตรงๆ) ซึ่งอาจจะแลดูหายไปไม่มากแต่ก็นะ มันก็มีความแตกต่างที่เห็นได้ชุดเวลาเย็บขึ้นประกอบขึ้นแล้วจะเห็นเอง(มันคลอดไปตามสรีระ)ครับผม

Dô sillhouettes over time


 

ชนิดของสเกลTypes of Scales

           มันมีหลักๆอยู่ดังต่อไปนี้คือ "ฮน-โคซาเนะ"กับ"อิโยะ-ซาเนะ" ซึ่งสมัยก่อนนิยมเรียบกกันว่า "ฮน โคซาเนะ"(หรือ แผ่นชิ้นน้อยของจริง) ซึ่งจะแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ที่ทำๆกันมามากๆซึ่งเรียกว่า คิริสุเกะซาเนะ(คิริสุเกะซาเนะเป็นกรรมวิธี่ที่ซึ่งพบบ่อยมากๆในยุคหลังๆในช่วงศัตวรรษที่ 16 ซึ่งตัดส่วนบน) ซึ่งนำมาประกอบกันขึ้นมาเป็นแผ่นชิ้นส่วน
          ประเภทที่สองเรียกว่า อิโย-ซาเนะ ซึ่งไม่เหมือน ฮน-โคซาเนะ ซึ่งแนวบนจะปาดลาดเอียงไปบางส่วนในมุมๆหนึ่ง ซึ่งมันทำได้ง่าย แต่ก็ไม่แน่นเท่ากับ ฮน-โคซาเนะ
          เกราะหลายๆตัวในสมัยหลังๆมันทำหลายๆแบบผสมๆกันระหว่างสองอย่างนี้
ซึ่งลำตัวทำมาจาก อิโยะซาเนะ และส่วนชิ้นเล็กชิ้นน้อยเช่น พวกกระโปรง บังไหล่ กระโปรงหมวก ฯลฯ ทำมาจาก ฮน-โคซาเนะ  เท่าที่ีรู้ๆมาสำหรับผู้เขียนนั้นยังไม่เคยเห็นเกราะตัวใหนทำสิ่งนี้ล้วนๆ (ในขณะเดียวกัน ช่างทำเกราะทำแบบแผ่นเหล็ก หรือแบบชิ้นๆ นิยมทำมาจาก อิโยะซาเนะ

ฮนโคซาเนะ

 

ในสมัยแรกสุดจะแบนราบ บางครั้งพวกนี้ก็ถูกเรียกว่า ฮิระ-ซาเนะ ในช่วงศัตวรรษที่ 14-15 ช่างทำเกราะ จะนิยมทาแล็คเกอร์หนาๆเพื่อให้มันแข็งแรงมากขึ้น 

Moriage-zaneซึ่งมีอีกชื่อคือ โมริอาเกะ ซาเนะ(หรือฮน-โคซาเนะประกอบเคลือบแล็คเกอร์) หลังจากนั้น ซึ่งเกราะเกือบทั้งหมดในสมัยแรกๆจะทำมาจากโมริอาเกะ ซาเนะ ผมไม่แนะนำให้ทำเกราะทำนองนี้ เพราะเอาจริงๆแล็คเกอร์มีราคาค่อนข้างสูงและดูแลรักษาค่อนข้างยาก สำหรับในไทยผมแนะนำให้ใช้สีนาโกย่าซึ่งกลิ่นไม่ค่อยแรงมากนัก เพราะถ้าจะใช้ไวนีลก็ไม่เลวแต่กลิ่นมาคุณเมาได้ครับ

เกราะสมัยแรกมักจะทำเกราะจากแล็คเกอร์ ที่ผมหมายถึงคือมันมีความยืดหยุ่นในด้านรูปร่างหน้าตา ซึ่งมันจะเป็นการเคลือบซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวๆ5-6ชั้นหรือมากกว่าจงกระทั่งเกราะมันหนักและแข็งแรง ซึ่งมันทำให้ป้องกันการถูกโจมตีได้ดี

      เกราะสมัยหลังๆยังคงพึ่งพาการป้องกันจากแล็คเกอร์ซึ่งทาลงไปหลายๆชั้น      จากนั้นเข้าสู่กระบวนการการเย็บต่อกันเป็นชิ้นยาวๆ(แล้วทาแล็คเกอร์หนาราวๆ4-5ชั้นถ้าขยันๆก็ 6-7ชั้น)ซึ่งส่วนลำตัวจำเป็นต้องทำให้แข็งๆ


เอ็นจำเป็นต้องใช้ในการผูกใว้เพื่อให้มันอยู่ทรง(โดยเฉพาะลำตัว) เกราะในสมัยแรกๆหลายๆตัว มักจะใช้ มิตสึเนะซาเนะ ซึ่งจะเป็นทรงที่ส่วนขวาจะปาดเอียงชี้ขึ้นไปทางขวา
Comparison between regular kozane and mitsume-zane

      เกราะในสมัยแรกๆนั้นใช้วัตถุดิบสลับ อย่างเช่น หนังกับเหล็กสลับกันไป  ซึ่งเพิ่มความสามารถในการป้องกันที่สูงขึ้น(เหล็ก) ในขณะที่น้ำหนักยังคงเบา(หนัง). จนกระทั่งราวๆค.ศ. 1500 เหล็กผลิตและหาง่ายกว่า ใช้กันแพร่หลายมากขึ้นแต่สำหรับ โคซาเนะยังคงใช้หนังต่อไป
      ไม่เหมือน อิโยะซาเนะ มันมีขนาดที่แตกต่างกันไป และเวลาเย็บเข้าด้วยกันชิ้นซ้ายทับขวากันไปเรื่อยๆ

Types of hon kozane      มันมีอีกสองแบบคือ แบบ เมะเนะชิซาเนะ(Meneshi หรือไร้ดวงตา) และแบบ
 โยะสึเนะซาเนะ(yotsume หรือสี่ตา), ซึ่งมีหกรูอยู่ด้านบน
(ซึ่งทั้งสองสามารถถักแบบเคบิกิได้)
      ในสมัยแรกๆเกราะ โอโยโรอิ นั้นใช้หนังหุ้มแผ่นไม้ซึ่งจะถูกทับซ้อนกัน(ล่างทับบน)แต่สมัยหลังๆจะไม่ใช้กันเลย
      โยสึเนะซาเนะเป็นอะไรที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากในภายหลัง ส่วนเมะนาชิซาเนะใช้อย่างคงเส้นคงวามากๆ แต่เพื่อความแข็งแรงที่แน่นอนมากก็ะเอา มุนะอิตะ และ คัมมูริ อิตะมาตุดเพื่อให้เกราะแน่นหนา
Detail of the fold on kozane
     ทั้งสองชนิดนี้แบน ในขณะที่สมัยหลังๆจะชอบดัดโค้ง ซึ่งเป็นการทำให้เกราะมันชิดต่อกัน(ทำยากขึ้นด้วย ฮา) ซึ่งพลาสติดล่ะก็เราสามารถดัดได้ถ้าคุณต้องการแต่ถ้าเพื่อความคล่องตัวเเล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องดัดbut given their slight flexibility that may not be necessary.

การสร้าง/ผลิต

          เกราะที่ทำจาก ฮนโคซาเนะนั้นจะดูน่าประทับใจมากถ้าคุณทำมันอย่างถูกต้อง แต่วิธีนี่มันง่ายนิดเดียวซึ่งเดี๋ยวผมจะสอนวิธีทำในหมวด "Photoshop กับ เกราะ" ผมจะอธิบายวิธีทำใว้ในหน้าดังกล่าวเพราะมันเป็นอะไรที่เข้าใจค่อนข้างยากถ้าผมเขียนเป็นตัวหนังสืออย่างเดียว
          จากที่กล่าวไปข้างต้น คุณจำเป็นจะต้องมีขนาดที่ถูกต้อง ขนาดจะต้องไม่ควรกว้างต่างกันมากเกิน 0.5-1 มม เนื่องจากมันจะส่งผลในระยะยาวตอนเย็บะมีปัญหาทำให้เชือกถักเอียง โดมารูในสมัยหลังๆก็ทำผิด อย่างเช่น โคซาเนะมันเล็กลงมากกว่าสมัยแรกมากๆ คุณต้องคิดดีๆว่าจะทำเกราะรุ่นใหนสมัยใหน
และคิดใว้เสมอว่าคุณกำลังจะทำเกราะทั้งตัวในแบบฉบับยุคสมัยใหม่ ที่ใช้ชิ้นโคซาเนะ คูณจะต้องใช้เวลานั่งเป็นวันๆเพื่อทำเกราะดังกล่าว. ให้ผมสมมุตินะว่าคุณกำลังจะทำเกราะ ฮิระซาเนะ(โมริอาเกะซาเนะ มันยากเกินไป)
      กรรมวิธีนั้นเดี๋ยวผมจะสรุปให้หมดการทำเกราะ โอโยโรอิ จนถึงยุค มารูโด กรรมวิธีนั้นแตกต่าง แต่กรรมวิธีนั้นจริงๆแล้วไกล้เคียงกัน แต่สิ่งแรกเลยคือขนาดของโคซาเนะ คิดดูดีเกราะที่คุณคิดจะสร้างอาจจะเป็นกรรมวิธีที่หินแบบสุดๆ
      อันดับแรกเลยคือคุณต้องร่างแบบเกราะของคุณอย่างระมัดระวัง เกราะในสมัยแรกๆ(แบนๆ มีแถวล่างเล็กๆ)
      หรือสมัยหลังๆ (มีดัดสเกลโค้ง) ถ้าคุณจะทำสมัยหลังๆ คุณสามารถตัดให้ดัดตัวขิ้นสเกล หาไม่ก็ใช้กรรมวิธีอื่นๆก็ได้ทำยังไงก็ได้ให้ดัดโค้งให้เป็น ทรงรูป S เพราะงั้น ส่วนบนที่แลบออกมาและส่วนล่าง จะถูกล็อกให้เป็นระเบียบ

      ตัดออกมาและคุณต้องแน่ใจว่าคุณมีสำรอง (คุณต้องมีราวๆหลายร้อย). ซึ่งจะต้องสำรองทั้งยทสึเนะและเมนะชิ ซึ่งแพทเทิร์นทั้งตัวจำเป็นต้องวางแบบจากกระดาษแล้วคำนวณให้แน่นอน
ซึ่งจะสามารถทำเกราะได้ในจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งคุณจะเห็นรูสำหรับทำเกราะได้จากจุดนี้ ซึ่งผมจะสอนเกี่ยวกับวิธีการถักในภายหลัง
      ขยายรูให้เหมาะซึ่งอาจจะใช้เวลาอยู่ช่วงหนึ่งในการทำมันออกมาจำนวนมาก ซึ่งผมนี่ชอบเปิดเพลงบรรเลงญี่ปุ่นเดิม นั่งฟังแล้วทำไป เพลินไปอีกแบบ(ซึ่งช่างทำเกราะในสมัยนั้นไม่มีเพลงพวกนี้ฟังหรอก อย่างเก่งก็ร้องเพลงที่ไปฟังมาจากงานเทศกาล)
Two lacquered boards made of hon kozane
ภาพนี้คือภาพที่อธิบายวิธีเย็บโคซาเนะ ซึ่งเเสดงให้เห็นถึงแถวล่างหรือ ชิตะการามิ ซึ่งมีการทาแล็คเกอร์แบบหนาราวๆ2-3ชั้น    แล็กเกอร์เหล่านี้ต้องทาใว้หนาๆ 
     แต่หากคุณใช้วัสดุอื่นๆเช่นพลาสติก หรือ PE สำหรับพลาสติกคุณอาจจะต้องเผามันสักนิดเผื่อให้มันดัดตรงปลายให้ไปข้างหลังได้ คุณอาจจะใช้เทียนก็ได้ประหยัดดี และควรจะใช้คีมคีบใว้(ไม่งั้นร้อนมาก)ซึ่งการดัดให้ไปข้างหลังจะช่วยให้ถักง่ายขึ้น(เพราะถ้าให้ตรงๆนะรับรองแล็คเกอร์อาจจะแตกออกได้)

      จัดแถวเสียให้เรียบร้อย และเย็บแบบ ชิตะงารามิ(shita garami) ถ้าคุณจะเย็บชิตะงารามิแบบจริงๆ คุณอาจจะต้องมีเหล็กแผ่นเหล็กหนาประมาณ เบอร์ 16 ดามอยู่ด้านหลัง. หรือแเรียกแบบญี่ปุ่นว่า ชิกิ(shiki)
      ซึ่งนี่คือกระบวนการในการทำที่แท้จริงของ ฮนโคซาเนะ ที่เหลือมันเป็นเรื่องของ การถักหรือ โอโดชิ(odoshi)


อิโยะ ซาเนะ

อิโยะซาเนะ นั้นรู้จักกันดีในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งมันเป็นหยักๆที่เรียกว่า ฮน โคซาเนะ
ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบสำหรับทรงหยักของอิโยะ ซาเนะ ซึ่งโดยทั่วไปจะนิยมใช้ โคอิชิ งาชิระ
(ทรงเป็นสองหยักtheซึ่งแสดงอยู่ดังรูป)
      หยักบน ยาฮาสุ งาชิระจะคล้ายหางธนู(จะเป็นทรงคล้ายตัวV)
โคฮาเสะ งาชิระ จะคล้ายทรงหยักๆทับๆกันอยู่
      โงอิชิ งาชิระ(ชื่อของหมากล้อมญี่ปุ่น ซึ่งหัวจะเป็นทรงครึ่งวงกลม)
      และโกริน งาชิระ ซึ่งจะออกเป็นทรงแบบสามเหลี่ยมตัดปลายเหลมออก,
      แค่ก็มีทรงตรงๆด้วยเหมือนกัน คือ อิชิมอนจิ งาชิระ

      อิโยะซาเนะนั้นสมัยแรกๆจะถูกตัดเป็นชิ้นๆและถูกเย็บรวมกัน ณแถวล่าง หรือเรียกกันว่า ชิตะการามิ จากนั้นก็ทาแล็คเกอร์ และทั้งแผ่นจะถูกทาอย่างหนาด้วยแล็คเกอร์บนหนังบางๆ   และรูแถวบนจะถูกทับเหลื่อมๆกันและถูกเย็บ
      บางครั้ง เกราะที่ทำจากอิโยะซาเนะและเคลือบด้วยหนังอีกทีและทาแล็คเกอร์ใว้หนาๆและสร้างเกราะแบบโฮโคเทะ ซึ่งเป็นเกราะที่ไม่มีการโชว์งานฝีมือทำเกราะ
และผมก็ยอมรับว่าผมก็ไม่อยากทำอะไรทำนองนี้เหมือนกัน(และผมก็ไม่แนะนำให้ผู้อ่านทำด้วย) แต่ก็คงเพราะผมไม่เห็นว่าทำเกราะแบบนี้แล้วเอาไปอวดใครเหมือนกัน(ซึ่งเอาเวลาไปทำเกราะแบบอื่นๆดีกว่าว่างั้นเหอะครับ)
      ส่วนที่ใช้อิโยซาเนะกันอย่างแพร่หลายมากๆก็มี เกราะหน้าตักหรือไฮดาเตะ ซึ่งอาจจะใช้ชิ้นสูตรแบบหัว อิชิมอนจิ งาชิระ หรือ โงอิชิ งาชิระอิโยะซาเนะ ดูหมวด"บทที13 เกราะหน้าตัก Haidate" สำหรับข้อมูลสำหรับวิธีการทำ เพราะตัวชิ้นเกราะไม่เหมือนกัน


การสร้าง 

      ทำแต่ละส่วนจาก อิโยะ ซาเนะ ควรจะทำแบบหลายๆแบบ สำหรับกีฬาเรียนรู้วิถีการต่อสู้ตะวันตกหรือ  SCA วิธีที่ง่ายทื่สุดคือเย็บเข้าด้วยกันในแถวล่าง(Shita garami) เย็บจนได้รูปขนาดที่ต้องการ
ไม่เหมือน ฮน โคซาเนะ ช่างทำเกราะด้วยจะใช้ชิ้นโคซาเนะทำเกราะ ต้องใช้อิโยะซาเนะ คุณจะต้องทำออกมาให้เยอะมากพอสมควร
      ถ้ามีโอกาสก็ขอให้สังเกตุเกราะดีๆ ว่างานเย็บเอ็นมันไม่ได้สวยเท่าที่ควร    จริงๆแล้ว แบบแผนของรูปแบบมันเป็นส่วนหนึ่งของการทำเกราะ จะทำให้เกราะแน่นจำเป็นที่จะต้องวางชิดต่อกันและกัน(แบบวางครึ่งต่อครึ่ง)
      ซึ่งชิตะงารามิที่ดีคือดังที่กล่าวใว้ในตอนบน หนังกวาง ตัดกว้าง 4 มม.ในระยะที่เหมาะสม
สอดเข้าไปหลังระหว่างตะเข็บ(ดังเส้นแดงดังภาพ)
คุณจะต้องใช้ ชิกิ กับอิโยะซาเนะ ไม่งั้นตัวแผ่นจะบิดเบี้ยว. ถ้าคุณจะทำเกราะจากอิโยะซาเนะ คุณอาจจะต้องใช้ลวดเบอร์ 16 เย็บแทน ไม่ก็ยิงรีเวทด้วยอิโยะ ซาเนะซึ่งจะทำให้เกราะแข็งแกร่ง

       หลังจากทำเกราะได้แล้ว ก่อนที่จะใช้แผ่นหนังแนะนำให้ทดสอบก่อนว่าใช้ได้หรือไม่จากนั้นก็ ขีดเส้น ขีดรูจากนั้นก็ตัดหนังให้กว่างกว่าขนาดที่จะทำ

คิริสะเกะ ซาเนะ(Kiritsuke Zane)

      เมื่อคุณทำเสร็จ มองไกลๆจะคล้าย ฮนโคซาเนะมากๆเว้นแต่จะมองดูไกลๆ
ซึ่งประหยัดหลายๆอย่างไม่ว่าจะเวลากระบวนการ ไม่เหล็กก็หนังที่มีหยักเหมือนฟันวิ่งซิกแซ็กไปมา ซึ่งมองไกลๆยังพอหลอกตาได้ แต่มันคงหนีไม่พ้นสายตาพวกผู้เชี่ยวชาญแน่นอนครับ

      ไม่เหมือนอิโยะซาเนะ คิริสุเกะต้องถักแบบถี่ๆ (Kebiki) ด้วยขนาดเกราะจริงความกว้างที่คุณตัดต้องมีขนาดซี่ที่ใหญ่พอที่จะเจาะรูและถักได้เช่น ถ้าคุณใช้เชือกกว้าง 1/4"(หรือ6ม.ม.) ความกว้างของ ฟันหรือ เดฮะบะก็ต้องแคบตาม

วิธีทำ

Kiritsuke-zane appearance      มันมีอีกกรรมวิธีๆหนึ่งที่จะทำ คิริสุเกะ ซาเนะ
(ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นทฤษฎี)ของจริงจะทำจากการตัดเป็นชิ้นๆเย็บขึ้นมาแล้วเคลือบแล็คเกอร์
ผมแนะนำกรรมวิธีอีกแบบ

      เริ่มต้นด้วย ตัด PE ในขนาดตามแบบ ตัดเป็นทรงซิกแซ็กในแถวบนจากนั้นก็เจาะรูขนาดที่ถักเชือก


      จากนั้นก็ตัดหนังกว้าง 3ม.ม. และยาว 4 ซ.ม. จากหนังสัตว์ เอากาวติด "ทำให้เป็นสันขึ้นมา" จากนั้นก็วางให้เป็นเส้นๆ(แล้วแถวล่างล่ะ อ๋อแน่นอนทำด้วยครับให้เป็นซิกแซ็กๆ) สำคัญมากที่จะทำให้เป็นสันพับอยู่ในมุมซ้ายดูที่รูปข้างล่างก็ได้ นี่สำหรับขนาดทั่วๆไป

Makeup of kiritsuke-zane board     จากนั้นก็รอกาวแห้งและจากนั้นก็เจาะรู รวมถึงแถวของชิตะการามิด้วย เย็บเอ็นใส่แล้วก็ขึงชิกิ จำใว้เสมอว่าแถวบนจะต้องไม่แถวล่างหรือบนจนเกินไป ควรจะอยู่กึ่งกลาง ซึ่งไกล้เคียงกับตำแหน่งรูของ เกราะฮนโคซาเนะ




Pattern for kiritsuke-zane        ดังรูปขวาซึ่งแสดงวิธีทำ ซึ่งอันซ้ายแสดงให้ถึงการพับ
เหมือนกับ แผ่นปิดอกหน้าและหลัง(tateage) บังไหล่(sode)และกระโปรง(kusazuri). และด้านขวาของจุดที่ติดตั้งบ้านพับ(), จำใว้เสมอว่าจริงๆแล้วหนามากและขยายไปในทางของมัน
       สำหรับลำตัวแล้วมันต้องติดบานพับเวลาทำกรรมวิธีซิกแซ็กนี้จะต้องเผื่อเนื้อที่ใว้ประมาณครึ่งนิ้ว
Photo: detail of a shiki      เอาชิกิแปะและดัดทรงให้โค้งดังที่ต้องการ และติดชิกิให้แน่น ชิกิควรจะสั้นกว่า 10 ม.ม.
สั้นกว่า ไม่งั้นมันจะโผล่ออกมาให้เห็นจนน่าเกลียด แต่เอาจริงๆแล้วจะติดชิกิยังไงให้แน่นสนิทนั้นผมแนะนำให้หาหนังมาทากาวยางแล้วปิดอีกต่างหากจากนั้นก็เก็บงานด้วยแล็คเกอร์จะดีที่สุด 

ทีนี้มาถึงจุดที่ยากล่ะ ถ้าคุณจะใช้แล็คเกอร์ของจริงผมบอกเลยว่ารุนแรงเกินไปไม่ดีต่อสุขภาพมากนัก ผมแนะนำสียี้ห้อหนึ่งคือ นาโกย่ากลิ่นค่อนข้างเป็นมิตรเมื่อเทียบกับกลิ่นอื่น
จากนั้นก็ทาแล็คเกอร์ลงไปแล้วรอจนกว่าจะแห้งแล้วค่อยทาต่อ ทำซ้ำๆแบบนี้ราวๆ5-6ครั้ง(2-3ครั้งก็ได้ถ้าขี้เกียจ) นี่เป็นกรรมวิธีที่นี่เบื่อมาก(งานสีไม่มีประสบการณ์นี้เละเอาง่ายๆครับ)แต่ผลลัพย์นี่ก็เอาจริงๆมันก็สวยงามนะครับ
            ซึ่งเกราะในช่วงราวๆศัตวรรษที่ 16 จะเป็นทำนองนี้ หากคุณต้องการ คุณสามารถทำเกราะที่ใช้กรรมวิธีสร้างอิโยะซาเนะหลอกๆขึ้นมาโดยใช้ PE(หรือหนังก็ได้แต่อย่าลืมว่าต้องหนาราวๆ 1.7-2ม.ม.)
แต่ผมแอบคิดว่าคุณคงไม่ใช้ในการรบเพราะว่ามันสวยงามเกินไป

           สำหรับเกราะที่ทำจากอิโยะซาเนะ คุณสามารถใช้กรรมวิธีนี้ในการทำได้ซึ่งประหยัดเวลามากกว่า แต่ถ้าคุณจะทำเกราะกรรมวิธีนี้(kiritsuke zane) กับกีฬา SCA เหล็กเบอร์ 18 คือคำตอบที่ดีที่สุด ตัดแผ่นใหส่วนหัวเป็นโคซาเนะ แต่ง ทาสี และถักมันขึ้นมา แต่ถ้าคุณจะทำจากเหล็กก็หากรรไกรดีๆ(ไม่ก็Plot laserเลยก็ดีนะครับ) จากนั้นก็เอาค้อนสกัดขึ้นรูป


:



No comments:

Post a Comment